บีโอไอ ชีไทยมีศักยภาพหลายด้าน จากตัวเลขขอรับการส่งเสิมลงทุนปีที่แล้วทะลุ 6 แสนล้าน พร้อมเร่งดึงดูดการลงทุน ปักหมุด 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า 3-5 ปีข้างหน้า ดันเป็น Game Changer ของประเทศไทย
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO จัดโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ BOI พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน ในหัวข้อเสวนา “ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน พลิกโฉมประเทศไทยสู่เศรษฐกิจใหม่”
เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ระบุ ประเทศไทยมีความโดดเด่นในสายตานักลงทุนหลายด้าน ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ ฐานซัพพลายเชนที่ดีที่สุดในภูมิภาค โดยเฉพาะผู้ผลิตวัตถุดิบและชิ้นส่วนรองรับอุตสาหกรรมต่างๆ บุคลากรมีขีดความสามารถ สิทธิประโยชน์ที่แข่งขันได้
ล่าสุดบีโอไอทีมาตรการใหม่ๆ ที่จะเพิ่มแรงดึงดูดการลงทุนไทยยิ่งขึ้น เช่น มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจ และมาตรการ LTR เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงให้เข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ
บีโอไอมียุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความโดดเด่นควบคู่กับการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งให้กับ Supply Chain นอกจากนี้ได้กำหนดอุตสาหกรรมมุ่งเป้าในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า คือ BCG EV Electric Digital และ Creative
ยอดขอส่งเสริมการลงทุนทะลุ 6 แสนล้าน
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทข้ามชาติรายใหญ่ยังคงสนใจเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง มีโครงการที่ขอรับการส่งเสริมมีจำนวน 2,119 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% สูงกว่าช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด
โดยคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI มีมูลค่า 4.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 36% โดยจีนมีมูลค่าคำขอสูงที่สุด 7.7 หมื่นล้านบาท รองลงมา คือ ญี่ปุ่น 5 หมื่นล้านบาท สหรัฐฯ 5 หมื่นล้านบาท ไต้หวัน 4.5 หมื่นล้านบาท และสิงคโปร์ 4.4 หมื่นล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตและการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล
ข้อมูลอ้างอิง : https://www.bangkokbiznews.com/business/1053069