Search

  • Australia
  • Thursday , Feb 1 , 2018

IC Customer Support (66) 0 2666 9449 (20 คู่สาย) l csu@ic.or.th l กรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน 098 553 0447

ข่าวสารจาก BOI

ไทยหว่านเมล็ดพันธุ์คนเก่งด้าน STEM เพื่อการลงทุนในอนาคต

วันพุธ, 21 ธันวาคม 2565 08:44 688

ห้องบรรยายของมหาวิทยาลัย STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) ของไทยคึกคักไปด้วยนักศึกษามากกว่าที่เคยเป็นมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ขนาดแรงงานของประเทศไทยที่ทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นหนึ่งในห้า จากประมาณ 1.7 ล้านคนในปี พ.ศ. 2557 เป็นมากกว่า 2 ล้านคนในปี พ.ศ. 2564

การบ่มเพาะนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรรุ่นใหม่เป็นหัวใจสำคัญของแผนประเทศไทยเพื่ออนาคตที่รุ่งเรืองและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ

เมื่อเร็วๆ นี้ การลงทุนจากต่างประเทศในภาคเทคโนโลยีของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ยานพาหนะไฟฟ้า เคมีภัณฑ์เฉพาะทาง พลาสติกชีวภาพ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในปี 2564 คำขอลงทุนโดยรวมจากบริษัทต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 455,300 ล้านบาท (12,300 ล้านเหรียญสหรัฐ) เทียบกับ 169,300 ล้านบาทในปีก่อนหน้า นำโดยญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน

ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนจากการเป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการเกษตรไปสู่เศรษฐกิจที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น

ดร. กิติพงษ์ พรหมวงษ์ นักวิทยาศาสตร์และประธานสำนักงานอุดมศึกษาแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้มีแผนที่จะก้าวไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นที่ระบบอัตโนมัติ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจและส่งเสริมการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ สภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมวิทยาศาสตร์การศึกษา (สวท.).

“ในวิวัฒนาการของเศรษฐกิจไทย มันมาถึงจุดที่เราตระหนักว่าเราไม่สามารถแข่งขันในระบอบเก่าได้อีกต่อไป โดยต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรเป็นหลักและใช้แรงงานเข้มข้น” เขากล่าว “เมื่อเร็ว ๆ นี้การศึกษาระดับอุดมศึกษาได้มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรม”

เขาเสริมว่าแรงผลักดันส่วนหนึ่งคือการส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) มากขึ้น และยกระดับฝีมือแรงงานของไทยด้วยความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้สามารถแข่งขันเพื่อการลงทุนในเวทีโลกได้

ไดรฟ์นี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ เมื่อสองทศวรรษที่แล้ว เปอร์เซ็นต์ของ GDP ที่ใช้ในการวิจัยและพัฒนาอยู่ที่ประมาณ 0.25% ดร. กิติพงศ์กล่าว ปัจจุบันการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาคิดเป็น 1.33% ของ GDP ส่วนใหญ่ (70%) มาจากภาคเอกชน ประเทศไทยกำลังจะบรรลุเป้าหมาย 2% ของ GDP ที่ใช้ไปกับการวิจัยและพัฒนาภายในปี 2570 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น

“ส่วนหนึ่งของเป้าหมายคือการเพิ่มจำนวนองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และเพิ่มสัดส่วนของแรงงานที่มีทักษะสูง” ดร. กิติพงศ์กล่าว

ในเดือนตุลาคม 2564 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) ของไทยได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่จะช่วยพัฒนาแรงงานทักษะสูง โดยเฉพาะในสาขา STEM

“แพลตฟอร์มการพัฒนากำลังแรงงานทักษะสูง” เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการปลูกฝังบทบาทของสะเต็มศึกษาในหมู่ผู้สำเร็จการศึกษาในท้องถิ่น เสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางธุรกิจและการลงทุน กระทรวงการอุดมศึกษากำลังทดลองใช้สิ่งที่เรียกว่า “กล่องทรายการศึกษาระดับอุดมศึกษา” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถพัฒนาโปรแกรมการศึกษารูปแบบใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคต

บริษัทหนึ่งที่ลงทุนจำนวนมากในประเทศไทยตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 30 ปีที่แล้วคือ Western Digital ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย
“เราเลือกประเทศไทยเป็นฐานเมื่อสามทศวรรษที่แล้ว เนื่องจากแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ดร. สัมพันธ์ ศิลปนาฎ รองประธานฝ่ายปฏิบัติการฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟของเวสเทิร์น ดิจิตอล ประเทศไทยกล่าว

Western Digital ขยายขนาดอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มแรกจ้างพนักงานที่มีทักษะจำนวนมาก และตอนนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำในประเทศไทย “การเติบโตอย่างรวดเร็วของทรัพยากรบุคคลที่มีทักษะเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของเรา” เขากล่าว
ประเทศไทยเป็นฐานที่ประสบความสำเร็จสำหรับเวสเทิร์น ดิจิตอล เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้รวมการดำเนินการผลิตฮาร์ดดิสก์ระดับโลกในประเทศไทยเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ที่น่าสังเกตคือปีที่แล้ว โรงงานอัจฉริยะของเวสเทิร์น ดิจิตอล ในประเทศไทยได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกของ Global Lighthouse Network ซึ่งเป็นชุมชนของแหล่งผลิตและห่วงโซ่คุณค่าที่ประสบความสำเร็จในการยอมรับและบูรณาการของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ในวงกว้าง

การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดร. สัมพันธ์กล่าวว่าการฝึกอบรมและการเพิ่มทักษะให้กับพนักงานจำนวนมากเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง “เราฝึกซ้อมเกือบทุกวัน” เขากล่าว ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขายังได้ดำเนินโครงการแนะนำนักศึกษา โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัย 75 แห่งทั่วประเทศ ทุกปี นักศึกษาระดับปริญญาตรีประมาณ 100 คนจะได้ทำงานในโรงงานของ Western Digital เป็นเวลาระหว่างสี่เดือนถึงหนึ่งปี การสอนนำโดยพนักงานปัจจุบันและอาจารย์จากมหาวิทยาลัย

“มันให้การศึกษาที่เน้นความสามารถและโอกาสในการเรียนรู้ทักษะที่สำคัญรวมถึงทักษะที่อ่อนนุ่มจากผู้เชี่ยวชาญของเรา” ดร.สัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากจบหลักสูตร นักศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวนมากต้องการเข้าร่วม Western Digital

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังจัดการกับความต้องการพนักงานที่มีทักษะในอุตสาหกรรม STEM ที่เพิ่มขึ้นด้วยการเปิดตัววีซ่าพำนักระยะยาว (LTR) เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถจากต่างประเทศให้เข้ามาอาศัย ทำงาน และพำนักในประเทศ ความคิดริเริ่มนี้เกิดขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ในการศึกษา STEM ด้วยการผลักดันเพื่อเพิ่มพูนทักษะและเพิ่มพูนทักษะให้กับกลุ่มคนที่มีความสามารถในท้องถิ่น ไม่เพียงเท่านั้น BOI ยังเสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมแก่บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บริษัทที่ลงทุนในการจัดตั้งสถานศึกษาและสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพที่เชี่ยวชาญด้านสะเต็มศึกษาจะได้รับสิทธิหยุดภาษีหลายปีและทุนฝึกอบรม

ดร. กิติพงศ์กล่าวว่า หนึ่งในวัตถุประสงค์สูงสุดในการเพิ่มจำนวนแรงงานที่มีทักษะคือการส่งเสริมวิสาหกิจรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม NXPO มีเป้าหมายในการสนับสนุนการเปิดตัวธุรกิจใหม่ประมาณ 1,000 แห่งที่สามารถขยายขนาดให้เป็นแกนหลักของเศรษฐกิจที่นำโดยนวัตกรรมของประเทศไทย อุทยานวิทยาศาสตร์ของประเทศเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนและบ่มเพาะบริษัทใหม่เหล่านี้ด้วยการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนทางการเงิน เขากล่าวเสริม

“ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราคาดว่าบริษัททั้ง 1,000 แห่งนี้จะมีมูลค่าบริษัทละ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ใช่ 'ยูนิคอร์นไทย' แต่เป็น 'โพนี่ไทย' ซึ่งจะกลายเป็นยูนิคอร์นแห่งอนาคตของประเทศไทย"

ข้อมูลจาก : https://www.bbc.com/storyworks/thailand-gateway-to-asia/thailand-sows-seeds-of-stem-talent-for-investment

ปฏิทินฝึกอบรม

IC Knowledge Management

เลขที่ 1 อาคารทีพีแอนด์ที ชั้น 12 ถนน วิภาวดีรังสิต
แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

(66) 0 2666 9449
< Customer Support Unit: CSU กด 1  อีเมล csu@ic.or.th
    - ให้คำปรึกษาด้านการใช้งานระบบ eMT กด 1 > กด 1 
    - ให้คำปรึกษาด้านการใช้งานระบบ RMTS กด 1 > กด 2 
< ติดตามเอกสารงานเครื่องจักรและวัตถุดิบ กด 2
    - ยื่นรายการวัตถุดิบ, สูตรการผลิต, โอนสูตร, ปรับยอดวัตถุดิบด้วยเอกสาร
    - ขอ username/password ic online, eMT online
    - ขอตัดบัญชีวัตถุดิบ, ยกเลิกการตัดบัญชีวัตถุุดิบ
      สำนักงานกรุงเทพ กด 2 > กด 1 สาขาชลบุรี กด 2 > กด 2 
      สาขานครราชสีมา กด 2 > กด 3 สาขาเชียงใหม่ กด 2 > กด 4
      สาขาขอนแก่น กด 2 > กด 5 สาขาสงขลา กด 2 > กด 6
< บริการสมาชิกและผู้ใช้บริการ กด 3
   - สมัครสมาชิกและผู้ใช้บริการ อีเมล cus_service@ic.or.th
   - บริการฝึกอบรม อีเมล icis@ic.or.th
   - บริการ Counter Service
      - บริการคีย์ข้อมูลเครื่องจักร วัตถุดิบและช่างฝีมือ: counterservice@ic.or.th
      - บริการยื่นไฟล์งานวัตถุดิบ: bis_center@ic.or.th
      - บริการขอข้อมูลเครื่องจักรและวัตถุดิบ: bis_center@ic.or.th
< ด้านการชำระเงิน กด 4 อีเมล finance@ic.or.th

"มั่นใจเมื่อใช้ IC"

    

 Copyright 2019 Investor Club Association About us All rights reserved.

logo

EasyCookieInfo

☰ open
© 2018 Your Company. All Rights Reserved. Designed By Your Company

Search