Search

  • Australia
  • Thursday , Feb 1 , 2018

IC Customer Support (66) 0 2666 9449 (20 Lines) l csu@ic.or.th l Emergency (System Failure) 098 553 0447

BOI News

บีโอไอ เผยผลสำเร็จโรดโชว์ญี่ปุ่น ยานยนต์ – อิเล็กทรอนิกส์ ขานรับนโยบาย พร้อมเดินหน้าลงทุน

Monday, 15 December 2025 09:30 21

บีโอไอเผยผลสำเร็จการเยือนญี่ปุ่น นักลงทุนเข้าร่วมสัมมนาใหญ่ “Thailand-Japan Investment Forum” กว่า 450 คน ตอกย้ำความสำคัญไทยในสายตาญี่ปุ่น รุกเจรจาแผนลงทุนกลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น 6 ค่าย พร้อมเดินหน้าลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท บีโอไอจับมือกระทรวง METI, JETRO และธนาคารญี่ปุ่น หนุนการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ในไทย

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลการเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีเลขาธิการบีโอไอ และนายกานต์ คฤหเดช ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมนำคณะ ในการเยือนครั้งนี้ บีโอไอร่วมกับ JETRO, ธนาคาร SMBC และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่น จัดสัมมนาใหญ่ “Thailand-Japan Investment Forum 2025” ณ Tokyo Kaikan กรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอนโยบายและมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ และโอกาสการลงทุนสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่น โดยมีผู้บริหารบริษัทชั้นนำจากญี่ปุ่นเข้าร่วมงานกว่า 450 คน ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ พลาสติก อาหารแปรรูป รวมถึงกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น สถาบันการเงิน ธุรกิจดิจิทัล การค้า และโลจิสติกส์ สะท้อนถึงความสนใจและการให้ความสำคัญของนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีต่อประเทศไทย

ในงานสัมมนาดังกล่าว นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวปาฐกถาเปิดงานผ่านระบบออนไลน์ โดยย้ำถึงความสัมพันธ์ไทย–ญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งมายาวนาน และบทบาทสำคัญของนักลงทุนญี่ปุ่นกว่า 6,000 บริษัทในประเทศไทย ซึ่งช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลักของไทย ทั้งยังระบุว่า ญี่ปุ่นยังคงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มียอดขอรับการส่งเสริมรวมกว่า 1,400 โครงการ เม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 4.2 แสนล้านบาท นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้นำเสนอนโยบายรัฐบาล “Quick Big Win” โดยเฉพาะเสาที่ 5 ว่าด้วยการลงทุนเพื่ออนาคต ซึ่งมอบหมายให้บีโอไอขับเคลื่อนผ่าน 3 มาตรการหลัก ได้แก่ การจัดทำโครงการ Thailand FastPass เพื่อเร่งรัดการลงทุนโครงการสำคัญ การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง 1 แสนคน และการยกระดับผู้ประกอบการไทยในซัพพลายเชนด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ อีกทั้งได้ย้ำการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น โดยบอร์ดอีวีได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการผลิต HEV/Mild Hybrid และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น รถเก่าแลกรถใหม่ เป็นต้น

ในขณะที่เลขาธิการบีโอไอ ได้นำเสนอปัจจัยดึงดูดการลงทุนของไทย มาตรการส่งเสริมการลงทุนที่สำคัญ และโอกาสการลงทุนในสาขาเป้าหมาย โดยเน้น 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์แห่งอนาคต ได้แก่ อุตสาหกรรม Bio-Circular-Green (เกษตร อาหาร สุขภาพ และพลังงานสะอาด) อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมดิจิทัลและ AI และกิจการศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นสาขาที่นักลงทุนญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญและมีความสนใจออกไปลงทุนในต่างประเทศ

ในงานสัมมนา ยังมีผู้บริหารจากฝั่งญี่ปุ่นร่วมบรรยายด้วย เช่น ธนาคาร SMBC ได้แนะนำ 3 อุตสาหกรรมในไทยที่เติบโตสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมสุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน และกิจการดาต้า เซ็นเตอร์ ขณะที่ JETRO กล่าวถึงบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางซัพพลายเชนและฐานเชื่อมโยงการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ส่วนผู้บริหารบริษัท Nippon Steel และ Denso ได้นำเสนอสถานการณ์การลงทุนและประสบการณ์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย

นอกจากงานสัมมนาใหญ่แล้ว บีโอไอยังได้หารือและเจรจาแผนการลงทุนร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น 6 ราย ซึ่งมีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ และนิสสัน โดยค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นได้ขอบคุณรัฐบาลไทยที่เร่งสร้างความชัดเจนในมาตรการสนับสนุนการผลิต HEV และ MHEV ซึ่งจะช่วยสร้างเงินลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท และมีข้อเสนอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการเพิ่มเติม 3 ด้านสำคัญ คือ มาตรการช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในประเทศ มาตรการปกป้องผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศ และมาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการส่งออกรถยนต์ ซึ่งบีโอไอได้ตอบรับที่จะนำข้อเสนอทั้งหมดไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำเสนอบอร์ดอีวีต่อไป
นอกจากนี้ คณะยังได้หารือกับนักลงทุนเป้าหมายและพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ บริษัท Panasonic, บริษัท Toppan, ธนาคาร SMBC, ธนาคาร MUFG, กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (METI) และ JETRO

- บริษัท Panasonic ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ มีการจ้างงานบุคลากรไทยกว่า 10,000 คน โดยได้หารือโครงการลงทุนใหม่ ในการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่มูลค่า 4,000 ล้านบาท เพื่อผลิต MEGTRON วัสดุสำหรับผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้ใน AI Server รวมทั้งได้หารือถึงการขยายกิจกรรมวิจัยและพัฒนาในไทย

- บริษัท Toppan ผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัล และการพิมพ์ความปลอดภัยสูง มีบริษัทในไทย 5 แห่ง ผลิตบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ความปลอดภัยสูง เช่น บัตรเครดิต โดยบริษัทมองไทยเป็นจุดสำคัญในภูมิภาคและมีแผนขยายธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บีโอไอยังได้เชิญชวนให้พิจารณาขยายการลงทุนผลิต IC Substrate ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโตรวดเร็วและเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ

- ธนาคาร SMBC และธนาคาร MUFG ได้หารือแนวทางในการสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นในไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้ บริษัทญี่ปุ่นในไทยให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้ รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมสาขาใหม่ ๆ ทั้งนี้ ธนาคาร MUFG ยังมีข้อเสนอในการช่วยเหลือ SMEs ไทย ผ่านมาตรการ Supply Chain Financing ที่จะปล่อยสินเชื่อแก่ SMEs ไทยที่ได้รับการรับรองจากบริษัทญี่ปุ่นที่เป็นผู้จัดซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจให้กับ SMEs ด้วย

- หน่วยงานรัฐของญี่ปุ่น ได้แก่ กระทรวง METI และ JETRO ได้หารือแนวทางสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่น โดยเฉพาะการสนับสนุนการลงทุนของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สุขภาพและการแพทย์ รวมทั้งการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถและความยั่งยืนของภาคธุรกิจญี่ปุ่นในไทย

“ผลการเดินทางเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดี เห็นได้จากจำนวนผู้เข้าร่วมสัมมนาที่มากถึง 450 คน รวมถึงการประชุมร่วมกับผู้บริหาร 6 ค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่น และการเจรจาแผนลงทุนกับบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ซึ่งทุกรายมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย และมีแผนขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่ต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท HEV/MHEV, เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI โดยรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนและเชิญชวนญี่ปุ่นมาขยายการลงทุนในสาขาเหล่านี้” นายนฤตม์ กล่าว

รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

calendar

IC Knowledge Management

1 TP&T Tower, 12th Fl., Vibhavadi-Rangsit Rd.,
Chatuchak, Bangkok 10900

(66) 0 2666 9449
< Customer Support Unit: CSU press 1 email : csu@ic.or.th
   - Using the RMTS system eMT Online  press 1 and press 1
   - Using the RMTS system RMTS  press 1 and press 2
< Follow up on machinery and raw materials press 2
   - Raw Material Database Service
   - Machinery Database Service
   - Raw Material Release Letter Service
   - Raw Material Balance Adjustment
     : Bangkok press 2 and press 1
     : Chonburi press 2 and press 2
< RMTS, eMT Online, Membership Application press 3
   -- Subscription and service users email : cus_service@ic.or.th
   -- Training & Seminar Service email : icis@ic.or.th
   -- Counter Service 
        - data entry service for machinery, raw material and e-expert 
          : counterservice@ic.or.th
        - Raw material filing service : bis_center@ic.or.th
        - Service for requesting information on machinery
          and raw materials : bis_center@ic.or.th
< Payment & Invoice press 4 email : finance@ic.or.th
< In case of Emergency (System Failure) contact 098 553 0447
   : Every day from 6:00 AM to 9:00 PM.
    Including public holidays and national holidays
     ***For General Inquiries, Please Call 02 666 9449 press 1  CSU

 

IC : Your Trust, Our Commitment

 Copyright 2019 Investor Club Association About us All rights reserved.

logo

EasyCookieInfo

☰ open
© 2018 Your Company. All Rights Reserved. Designed By Your Company

Search