Cloud Economy เศรษฐกิจบนก้อนเมฆ กำลังเปลี่ยนอนาคตธุรกิจไทย
ในโลกธุรกิจยุคใหม่ “Cloud” ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีไอทีอีกต่อไป แต่กลายเป็น โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ที่ธุรกิจทุกระดับ ตั้งแต่สตาร์ตอัปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ต้องพึ่งพาในการเติบโต
นี่คือสิ่งที่ทั่วโลกเรียกว่า Cloud Economy ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วย Cloud Computing, Hosting และ Data Infrastructure หากเศรษฐกิจศตวรรษที่ 20 เติบโตจากไฟฟ้าและถนนหนทาง ศตวรรษที่ 21 ก็กำลังเติบโตบน “ก้อนเมฆ”
Cloud Economy คืออะไร?
พูดให้เข้าใจง่าย ๆ Cloud Economy คือระบบที่ช่วยให้ธุรกิจ “Scale” ได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้ Cloud เป็นฐาน ทั้ง Cloud Computing (การประมวลผล), Hosting (รับฝากเซิร์ฟเวอร์) และ Data Infrastructure (โครงสร้างพื้นฐานข้อมูล) คือหลังบ้านสำคัญที่ทำให้แอปพลิเคชันและบริการออนไลน์ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ
- จากเดิมที่ธุรกิจต้องลงทุนซื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เอง ทุกวันนี้บริการ “เช่าใช้” ผ่านระบบ Cloud ก็เริ่มต้นได้ทันที
- ใช้โมเดล Pay-as-you-go จ่ายเท่าที่ใช้ ปรับลด-ขยายตามความต้องการ
ตัวอย่างเช่น
' ร้านกาแฟ SMEs ใช้ ระบบ POS บน Cloud แทนการลงทุนซอฟต์แวร์ราคาแพง
' สตาร์ตอัป e-commerce เปิดแพลตฟอร์มแล้วเพิ่มผู้ใช้จากหลักพันเป็นหลักล้านได้ในเวลาไม่กี่เดือน
'โรงงานอุตสาหกรรมเก็บข้อมูลจาก IoT Sensor ไว้บน Cloud เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการผลิตแบบเรียลไทม์
Cloud = โอกาสใหม่ที่ทุกธุรกิจเข้าถึงได้
สิ่งที่ทำให้ Cloud กลายเป็น Game Changer ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ โมเดลธุรกิจ ที่เปลี่ยนสมการต้นทุน เวลา และ โอกาส
- Pay-as-you-go: จากเดิมบริษัทต้องลงทุนซื้อ Server, Storage, และระบบ Network เองด้วยต้นทุนก้อนใหญ่ แต่
บน Cloud ทุกอย่างเปลี่ยนเป็น จ่ายเท่าที่ใช้ จะเริ่มเล็กก็ได้ จะขยายก็ไม่ต้องลงทุนใหม่
- มาตรฐานระดับโลก: ผู้ให้บริการ Cloud ใหญ่ ๆ อย่าง AWS, Microsoft Azure, Google Cloud ลงทุนสร้าง
ระบบที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มีความเสถียร ซึ่งองค์กรเล็กก็เข้าถึงได้ทันที
-Scalability: รองรับลูกค้าจากหลักร้อยสู่หลักล้านโดยไม่ต้องเพิ่ม Server เอง
Speed-to-Market: เปิดตัวสินค้าใหม่ได้ในไม่กี่ชั่วโมง ไม่ต้องรอระบบหลังบ้าน
> โลกทั้งใบกำลังวิ่งด้วย Cloud ปี 2025 ตลาด Public Cloud ของโลกคาดว่าจะโตถึง 23% YOY แรงขับหลักคือ AI และ Generative AI ที่ต้องใช้พลังประมวลผลและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมหาศาล จากรายงาน Work Trend Index Annual Report โดย Microsoft ร่วมกับ LinkedIn พบว่า กว่า 75% ของพนักงานในองค์กรทั่วโลก ใช้ AI ในการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Generative AI ขณะที่ฝั่งผู้บริโภคก็สร้างดีมานด์จากการใช้งาน Social Media, Streaming, และ Mobile App อย่างต่อเนื่อง
<เพื่อรองรับคลื่นข้อมูลและระบบอัจฉริยะที่เติบโตแบบก้าวกระโดด องค์กรทั่วโลกกำลังย้ายสู่ Hybrid Cloud “สูตรผสมที่ลง ตัว” ระหว่างความยืดหยุ่นของ Public Cloud และความปลอดภัยของ Private Cloud โดย Gartner (2025) คาดว่า ภายในปี 2027 กว่า 90% ขององค์กรทั่วโลกจะใช้กลยุทธ์ Hybrid Cloud เพื่อรองรับการเติบโตของ GenAI และการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
*Cloud ถนนเส้นใหม่ของเศรษฐกิจไทย
ในประเทศไทย การลงทุนด้าน Data Center และ Cloud Service กำลังเร่งตัวอย่างมีนัยสำคัญ:
- ปี 2567 มีมูลค่าคำขอส่งเสริมกิจการ Data Center และ Cloud Service กว่า 240,000 ล้านบาท Ref
- ครึ่งปีแรกของ 2568 การลงทุน Data Center และ Cloud Service เพิ่มเป็นกว่า 521,000 แสนล้านบาท โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่าง AWS, Google, Equinix (สหรัฐฯ), NEXTDC (ออสเตรเลีย), Huawei Technologies,
Beijing Haoyang (จีน) และ Empyrion Digital (สิงคโปร์) เป็นต้น สิ่งนี้สะท้อน “มุมมองเดียวกัน” ว่า ประเทศไทยคือฐานสำคัญของ Digital Infrastructure แห่งอาเซียน
?? แล้วธุรกิจไทยจะได้ประโยชน์อย่างไร?
Cloud ไม่ใช่แค่พื้นที่เก็บข้อมูลอีกต่อไป แต่คือ “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ที่เปลี่ยนทุกอุตสาหกรรมให้พร้อมวิ่งบนเศรษฐกิจดิจิทัล
- ลดข้อจำกัดเดิม เพิ่มแต้มต่อทางธุรกิจ: ไม่ต้องลงทุนระบบใหญ่ ก็เข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกได้
- พร้อมกว่าในยุค AI: ธุรกิจที่ใช้ Cloud อยู่แล้วจะปรับใช้ AI ได้เร็วกว่า มีแต้มต่อในการแข่งขัน
- ไทยกลายเป็น Infrastructure สำคัญของเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ทั้งในมิติ Data, AI และ Digital Services
> จาก “เทคโนโลยี” สู่ “ระบบนิเวศเศรษฐกิจ”
สิ่งที่น่าสนใจคือ Cloud กำลังกลายเป็น ระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบ
- สำหรับ SMEs: จากเดิมที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้ยากและต้นทุนสูง วันนี้สามารถใช้ ERP, CRM หรือระบบ Data
Analytics บน Cloud ได้ในราคาที่จับต้องได้ ทำให้ SME ไทยยกระดับมาตรฐาน
- สำหรับแรงงานไทย: Cloud Economy กำลังสร้างตำแหน่งงานใหม่อย่าง Cloud Engineer, Data Scientist, Cybersecurity Specialist เป็นแรงผลักดันให้เกิด Upskill/Reskill บุคลากรไทย
- สำหรับสังคม: Telemedicine หรือ E-learning ที่ขยายบริการสู่ต่างจังหวัดผ่าน Cloud
** บทบาทบีโอไอ: ไทยกับการสร้าง Cloud Economy ของภูมิภาค
บีโอไอได้ปรับเกณฑ์ และสิทธิประโยชน์ใหม่ในปี 2025 เพื่อดึงดูดการลงทุนในธุรกิจ Data Center, Data Hosting และ Cloud Service ให้เหมาะกับรูปแบบธุรกิจในปัจจุบันมากขึ้น และมุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์ต่อการพัฒนาบุคลากรดิจิทัลของไทยอย่างชัดเจน
>ต่อยอดให้เศรษฐกิจด้วยการพัฒนาบุคลากรไทย
ผู้ลงทุนต้องดำเนินโครงการให้เสร็จตามแผนก่อนใช้สิทธิยกเว้นภาษี เช่น จัดทำหลักสูตรร่วมกับสถาบันการศึกษา สนับสนุน
พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ไทย ใช้อุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศ เป็นต้น
- ให้สิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี ในกิจการที่ใช้อุปกรณ์ที่มีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูง (Advanced Computing Capabilities) และมีการใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
- ให้ได้รับยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร สิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงความสะดวกด้านวีซ่าและ work permit สำหรับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ เป็นต้น
- ปัจจุบัน โดยจะเน้น อีกทั้งได้เพิ่มเงื่อนไขให้โครงการที่จะขอรับการส่งเสริม ต้องเสนอแผนพัฒนาบุคลากรไทย เช่น การจัดทำหลักสูตรร่วมกับสถาบันการศึกษา การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs หรือการใช้อุปกรณ์ที่ผลิตในประเทศ








