ในโลกที่ความรับผิดชอบต่อสังคมและการช่วยเหลือชุมชนกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความสำเร็จ การมุ่งเน้นเพียงแค่ผลกำไรระยะสั้นอาจไม่เพียงพออีกต่อไป หากปราศจากการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ธุรกิจที่สามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อชุมชนและสังคมกำลังกลายเป็น "รากฐานสำคัญ" ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจ
แนวโน้มการลงทุนที่ยั่งยืน : มากกว่าทางเลือก
จากรายงานของ McKinsey & Company พบว่านักลงทุนในยุคนี้ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในธุรกิจ การลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชนจึงกลายเป็น "โอกาส" ที่สำคัญในการสร้างความแตกต่างและได้เปรียบในการแข่งขัน สองคล้องกับผลสำรวจ PwC’s 2024 Voice of the Consumer ที่เก็บข้อมูลจากผู้บริโภคมากกว่า 20,000 คนใน 31 ประเทศ พบว่า มากกว่าสี่ในห้าของผู้บริโภค (80%) ยินดีจ่ายเพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าที่ผลิตหรือจัดหาด้วยวิธีที่ยั่งยืน ซึ่งแสดงให้เห็นว่านี่คือมาตรฐานใหม่ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม
มาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ เปิดโอกาสให้ธุรกิจมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนและสังคม ผ่าน 8 เส้นทางสำคัญที่ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยสามารถเลือกลงทุนในหนึ่งในแนวทางเหล่านี้ได้ตามที่เหมาะสม
8 แนวทาง CSR ได้ใจชุมชน เพิ่มแต้มต่อทางธุรกิจ
1. การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิตหรือการให้บริการ : การลงทุนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหรือพัฒนาบริการด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เปิดโอกาสให้ธุรกิจในชุมชนเติบโตไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน เช่น ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์
2. การบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม : ทรัพยากรน้ำถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนา การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับทั้งธุรกิจและชุมชน เช่น ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการขุดบ่อเพื่อกักเก็บน้ำ
3. การพัฒนากิจการเกษตรที่ยั่งยืน : การทำเกษตรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชน เช่น ค่าใช้จ่ายในการอบรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านเกษตรเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
4. การยกระดับด้านสิ่งแวดล้อม : การลงทุนในโครงการที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งเน้นการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เช่น ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนเครื่องมือหรืออุปกรณ์การคัดแยกขยะในชุมชน
5. การพัฒนาสถานพยาบาลของรัฐ : การพัฒนาสาธารณสุขและสถานพยาบาล จะช่วยเสริมสร้างสังคมที่แข็งแรง การดูแลสุขภาพที่ดีนำมาซึ่งประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน เช่น ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์
6. การยกระดับสถานศึกษาของรัฐ : การสนับสนุนการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในอนาคต ธุรกิจที่ร่วมมือกับสถานศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรเฉพาะทางสามารถสร้างแรงงานที่มีคุณภาพได้ เช่น ค่าก่อสร้างหรือปรับปรุงห้องเรียน
7. การจัดการป่าเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน : การฟื้นฟูป่าที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพชุมชนในระยะยาว การลงทุนในโครงการที่ช่วยดูแลป่าหรือพื้นที่สีเขียว จะช่วยสร้างผลเชิงบวกทางสิ่งแวดล้อมและยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ เช่น การก่อสร้างแนวกันไฟป่าเปียก
8. การสนับสนุนด้านอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนด : ธุรกิจสามารถเลือกการสนับสนุนเพิ่มเติมได้ตามนโยบาย ที่บีโอไอกำหนด เช่น โครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในชุมชน
การลงทุนที่ยั่งยืน : ความคุ้มค่าที่มากกว่าผลกำไร
ในยุคที่ผู้บริโภคและนักลงทุนให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การลงทุนในโครงการที่ตอบโจทย์การพัฒนาชุมชนและสังคมไม่ได้เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้ลูกค้าวางใจ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางธุรกิจและสร้างศักยภาพในการแข่งขันอย่างยั่งยืน ทั้งยังปกป้องธุรกิจจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมและความท้าทายทางสังคม ซึ่งการลงทุนในด้านนี้จะทำให้ธุรกิจไม่เพียงแต่เติบโต แต่ยังยืนหยัดในระยะยาว
ด้วยการสนับสนุนจาก “มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม” ของบีโอไอ ช่วยเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้เป็นผลลัพธ์ ผู้ลงทุนที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดสามารถรับสิทธิประโยชน์ที่จะสร้างแต้มต่อให้ธุรกิจได้ เช่น การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 3 ปี ในวงเงิน 120% ของเงินสนับสนุน
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเล็กน้อยหรือใหญ่ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นผลลัพธ์ที่ทรงพลังได้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อผ่านช่องทางต่างๆ ของบีโอไอ ได้เลย
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม https://www.boi.go.th/.../content/9_2567_66835f31dc0d3.pdf
