การส่งเสริมการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมที่สำคัญเป็นเครื่องมือสำคัญทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566–2570)
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ “บีโอไอ” เปิดเผยว่า บีโอไอยังได้เพิ่มประเภทกิจการที่เปิดให้การส่งเสริมการลงทุนใหม่ เช่น กิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง กิจการผลิตอุปกรณ์สำหรับเซลล์เชื้อเพลิง กิจการสถานีบริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ กิจการผลิตไฮโดรเจนจากน้ำโดยใช้พลังงานหมุนเวียน การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจน และ กิจการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอวกาศ เป็นต้น
"การปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ถือเป็นการปรับปรุงมาตรการเดิมให้ตรงเป้ามากขึ้น ลดความซับซ้อน และเพิ่มมาตรการ ที่จะช่วยดึงดูดการลงทุุนในประเทศไทยเพื่อตอกย้ำการเป็นฐานการลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศของไทย"
นอกจากนี้ ได้กำหนดมาตรการและสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่ปรับปรุงใหม่ในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย 9 มาตรการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือน ม.ค.2566 ได้แก่
1.มาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
2.มาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
3.มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม (Retention and Expansion Program)
4.มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program)
5.มาตรการกระตุ้นการลงทุนในระยะฟื้นฟูเศรษฐกิจ
6.มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมไปสู่ Smart และ Sustainability
7.มาตรการส่งเสริมการลงทุน SMEs
8.มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เป้าหมาย
9.มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม
บีโอไอยังได้ปรับเปลี่ยนหมวดกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุนจาก 7 เป็น 10 หมวดกิจการ เพื่อให้สะท้อนทิศทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ชัดเจนขึ้น เช่น กลุ่ม BCG กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าสูง
พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์กลุ่ม A1+ สำหรับอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ กิจการเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ ไบโอเทค นาโนเทค และเทคโนโลยีวัสดุขั้นสูง ที่มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีจะได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 10 – 13 ปี
ข้อมูลจาก : https://www.bangkokbiznews.com/environment/1041014